ลุยจิ เด เซียร์โว ซีอีโอของเซเรียอาบ่นว่า ฟุตบอลอิตาลี เล่นกันแบบเน้นแทคติกมากเกินไป และหนุนให้แต่ละทีมลองปรับเปลี่ยนมาเล่นเกมรุก เพื่อให้มีการยิงประตู และได้ความสนุกในการรับชมมากยิ่งขึ้น
บอร์ดบริหารชี้ชัด ฟุตบอลอิตาลี เน้นเรื่องแทคติกทำให้ไม่พัฒนาขึ้น
“ม้าลาย” ยูเวนตุส ครองความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลอิตาลีด้วยการคว้าถ้วยสคูเด็ตโตติดต่อกันมานานหลายฤดูกาล ขณะที่สโมสรอื่นๆ เช่น โรม่า นาโปลี อินเตอร์ และเอซี มิลาน ทำได้แค่เบียดลุ้นแชมป์ในบางปี และยังยกระดับมาเทียบชั้นกับเบียงโคเนรีไม่ได้
“ไม่มีใครต่อต้านยูเวนตุส แต่เราต้องการลีกที่มีการแข่งขันสูงและมีการประตูถล่มทลาย” เด เซียร์โว กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่น
“เราเห็นว่าหลายเกมเล่นแบบแทคติกมากเกินไปเป็นเวลานานแล้ว และมันทำให้ขายออกยาก แต่โชคดีที่จำนวนผู้ชมและแฟนบอลในสนามกำลังเพิ่มขึ้น”
ขณะเดียวกัน เด เซียร์โว เปิดเผยว่า แนวโน้มด้านการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของฟุตบอลลีกสูงสุดอิตาลีกำลังดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการกระจายรายได้ที่มีกฎหมายคุ้มครองอยู่
“เราเป็นลีกเดียวในยุโรปที่การมีกฎหมายดูแลเรื่องการกระจายเงินค่าลิขสิทธิ์ทีวี อย่างไรก็ดี เรายังห่างไกลกับอังกฤษ ซึ่งแบ่งเงินได้อย่างเท่าเทียมกัน”
เด เซียร์โว ยืนยันว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันกำลังเร่งออกมาตรการเพื่อปราบปรามเรื่องการเหยียดผิวและเหยียดเชื้อชาติให้หมดไปจากเกมฟุตบอลในอิตาลี โดยจะหาทางระบุตัวผู้กระทำผิดเพื่อออกบทลงโทษ
“เรากำลังร่วมมือกับกระทรวงกีฬาเรื่องกฎระเบียบ ซึ่งจะทำให้เราได้เห็นภาพของตัวบุคลลที่เป็นตัวหลักในการเหยียดผิว และออกคำสั่งแบน”
ทั้งนี้ปัญหาเหยียดผิวในอิตาลีกำลังเป็นประเด็นถกเถียงอย่างหนักในอิตาลี โดยเฉพาะกรณีของ มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าเบรสชา ซึ่งเคยเตะบอลใส่แฟนบอลที่ใช้คำพูดเชิงเหยียดมาแล้ว อีกทั้งมัสซิโม่ เลลิโน่ ประธานสโมสรเบรสชา ยังใช้คำพูดในลักษณะเหยียดนักเตะทีมตัวเองซ้ำอีก
604 total views