บัลลงดอร์ (Ballon d’Or) และรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมฟีฟ่า (FIFA Men’s Player Award) เป็นรางวัลใหญ่ที่ไว้ชี้วัดความสำเร็จและผลงานของนักฟุตบอลในแต่ละปี ว่าใครผลงานดีที่สุด และเก่งที่สุด ซึ่งทั้งสองรางวัลนี้ก็ถือเป็นรางวัลศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ที่นักฟุตบอลต้องการ
หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมต้องแบ่งเป็น 2 รางวัล ทำไมไม่รวมรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมที่สุดของโลกแจกเป็นรางวัลเดียว เพื่อให้วัดกันชัดๆ ไปเลยว่าใครเจ๋งกว่าใคร คือ ทั้งสองชื่อรางวัลไม่เหมือนกัน และผู้จัดรางวัลก็ไม่ใช่เจ้าเดียวกัน ซึ่งต่อไปนี้จะเป็นที่มาที่ไปว่าทั้งสองรางวัลนี้มีจุดกำเนิดมาจากไหน และรางวัลไหนสำคัญกว่ากัน
บัลลงดอร์และฟีฟ่ามีที่มาอย่างไร
บัลลงดอร์ เป็นรางวัลของนิตยสาร ฟรองซ์ ฟุตบอล ซึ่งเป็นนิตยสารดังของฝรั่งเศส เริ่มแจกรางวัลครั้งแรกในปี 1956 โดยผู้ได้รับรางวัลคนแรกคือ เซอร์ สแตนลีย์ แมทธิวส์
รางวัลบัลลงดอร์ในยุคนั้นเรียกได้ว่าเป็นรางวัลสำหรับนักเตะยอดเยี่ยมในยุโรป และเป็นรางวัลที่จับต้องได้รางวัลแรก ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยมีรางวัลที่มอบให้นักเตะหนึ่งเดียวที่ผลงานดีที่สุดในยุโรป
จนกระทั่งปี 1991 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ก็เริ่มแจกรางวัลของตัวเองบ้าง ภายใต้ชื่อรางวัล “นักเตะยอดเยี่ยมของโลกประจำปี” (World Player of the Year)
บัลลงดอร์ และรางวัลของฟีฟ่า ก็เป็น 2 รางวัลที่แจกแยกกันมาตลอด แต่ในปี 2010 ฟีฟ่า และฟรองซ์ ฟุตบอล ก็ทำข้อตกลงรวมเป็นรางวัลเดียวกัน ภายใต้ชื่อ “ฟีฟ่า บัลลงดอร์”
อย่างไรก็ดี ฟีฟ่า บัลลงดอร์ ก็อยู่ได้แค่ถึงปี 2015 โดยการแจกรางวัล 6 ครั้ง เป็นของลิโอเนล เมสซี่ 4 ครั้ง และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ 2 ครั้ง อีกทั้งเจอเสียงวิจารณ์มากมายว่าการลงคะแนนเลือกผู้ชนะไม่ได้ตรงตามผลงานจริง และเป็นการเลือกเหมือนป๊อปปูลาร์โหวตกันเท่านั้น
บัลลงดอร์และฟีฟ่านับคะแนนอย่างไร
บัลลงดอร์ใช้คะแนนโหวตจากผู้สื่อข่าวทั่วโลกในการนับคะแนนหาผู้ชนะในแต่ละปี จึงได้คะแนนจากมุมผู้สื่อข่าวซึ่งมีความเป็นกลางมากกว่า
ขณะที่รางวัลของฟีฟ่าใช้คะแนนจากหลายส่วนมารวมกัน เริ่มจากคะแนนส่วนแรก 50% เป็นคะแนนจากการเลือกของกัปตันทีมชาติและโค้ชทีมชาติทั่วโลก ส่วนอีก 50% เป็นคะแนนจากการโหวตทางออนไลน์ และตัวแทนจากสื่อ
หากถามว่ารางวัลไหนที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นกลางที่สุด คนส่วนใหญ่คงเลือกรางวัลบัลลงดอร์ เพราะใช้คะแนนโหวตจากผู้สื่อข่าวเป็นหลัก ซึ่งว่ากันตามตรงแล้วมีอคติน้อยกว่าการโหวตของกัปตันและโค้ชทีมชาติของฟีฟ่า เพราะการโหวตของฟีฟ่ามีหลายครั้งที่เลือกโหวตกันเองตามใจชอบ และไม่ได้เลือกนักเตะฟอร์มดีที่สุด จึงกลายเป็นรางวัลที่มีเสียงวิจารณ์ตามมามากเลยทีเดียว
742 total views